Click the image to watch the reel
PEARAMON
อะไรคือโมเมนต์ที่คุณรู้สึกว่า... นี่แหละ ‘กรุงเทพฯ’ แบบที่ไม่มีที่ไหนเหมือน
คือไปเรียนสิงคโปร์ใช่ไหม แล้วกลับมากรุงเทพฯ อะ แล้วก็จะเห็น อะไรที่เราไม่เคยเห็น
ก็คือกรุงเทพฯ มันคือการรวมทุกอย่างแบบ ยําใหญ่ แกงโฮะ แต่ มันก็มีความเป็นออริจินัลแบบไม่ต้องพยายาม เพราะว่ามันก็เป็น แบบนั้นอยู่แล้ว เช่น คุณสามารถกินไก่ทอดราคาสามร้อย สี่ร้อย หรือแม้กระทั่งพันนึงได้ — ในรสชาติที่อยู่ในบาร์เดียวกับไก่ทอด หาดใหญ่ที่ถนนข้าง ๆ หรืออย่างร้านที่เราอยู่ มันก็เป็นร้านที่มีผัด ไทย แล้วก็มี Beef Stroganoff มาอยู่ด้วยกัน การยํารวมกันแบบนี้ มันเกิดขึ้นมาเองตั้งนานแล้ว โดยที่เราไม่ต้องพยายาม ก็ไม่ได้บอก ว่ามันดีหรือไม่ดี แต่เรารู้สึกว่ามันเป็นอัตลักษณ์ที่มันใช่ อีกอย่างนึงคือ Youth Culture แรงมาก ๆ ไม่มีที่ไหนใน ประเทศไทยที่เราจะเห็นพื้นที่แบบสยามสแควร์ คูณอยากแต่งตัวตา มอนิเมะก็แต่งไป อยากแต่งตัวแบบเต้น TikTok ก็แต่งไป ตอนเรา อยู่สิงคโปร์ เราดูเรื่อง GELBOYS แล้วก็แบบ “แบ่งไม่มีที่ไหนเหมือนสยามสแควร์แลัวว่ะ”
ถ้าความหลากหลายทางเพศใน กรุงเทพฯ เป็นเมนูร้านข้าวแกง คุณคิดว่าจะเป็นเมนูอะไร แล้วเพราะอะไร?
ร้านข้าวแกงมียําาป่ะวะ... ต้องยําาป่ะเราเพิ่งคุยกับเพื่อนว่าเรา ชอบคําว่า “ยํา” มากมันเป็นคําที่เฉพาะในไทยมาก ซึ่งมันเป็น อาหาร แต่ก็เป็น verb ได้ด้วยมันคืออาหารที่เราเอาอะไรไม่รู้มายํารวมกันแต่สุดท้ายก็ดัน เข้ากัน แล้วสร้างความอุมามิแปลก ๆ ขึ้น อย่างคําว่า “กะเทย” หรือ “ladyboy” อะ— เพื่อนเคยถาม ว่า “เฮ้ย คําว่า ladyboy เป็นคําเหยียดป่ะ?” หรือ “กะเทยเป็นค่าเหยียดไหม?” เราก็บอกว่า “ก็ไม่ใช่นะ เพราะ กะเทยก็เรียกกันเองว่ากะเทย เกย์ก็เรียกตัวเองว่ากะเทยชาย แท้ก็เรียกกะเทยว่ากะเทย” คือมันมีความ unique ของมัน เพราะฉะนั้นเราว่าต้องเป็น “ยํา” — เพราะมันมีหลายแบบ มารวมกัน แล้วพอมันมารวมกันแล้วเกิดความอุมามิ ที่ทุกอย่างมันโดดออกมาพร้อมกัน
ถ้ากรุงเทพฯ เป็นนิทรรศการ ช่วง Pride — คุณคิดว่าใคร ควรได้อย่ใน spotlight บ้าง ที่เราไม่ค่อยได้พูดถึง?
เราว่ากลุ่มคนที่เราอยากให้ Pride พูดถึงมาก ๆ คือกลุ่ม Sex Worker
Pride มันเกิดจากการประท้วงกับตํารวจ เพราะฉะนั้นเรา จะเดินเพื่อประกาศจุดยืนอะไรบางอย่าง — เป้าหมายต่อไป หลังจากสมรสเพศเดียวกัน คือการผลักดันให้ “บริการทางเพศ” ถูกกฎหมาย เพราะคนเหล่านี้สร้างรายได้เข้าประเทศเยอะมากเราไม่รู้ว่า มูลค่าเท่าไหร่ แต่ตํารวจก็ยังพูดว่า “ไม่มี ๆ” การทําให้มันถูก กฎหมายคือดีไม่ใช่แค่กับผู้หญิงขายบริการแต่รวมถึงกะเทยที่ทําอาชีพนี้ด้วย เราเลยคิดว่ามันควรจะถูกพูดถึงมากกว่านี้ใน Pride
เพลงไหนที่ PEARAMON เปิดแล้วรู้สึกว่า มันเป็น Soundtrack ประจําชีวิตในช่วง Pride ขอ 1 Track
คุยกับเพื่อนใน Pride Parade ว่า พอเป็น Gen Z แล้ว มันก็จะ ฟัง Chappell Roan, Brat อะไรพวกนี้เนอะ เราคิดว่าเพลง Pink Pony Club ของ Chappell Roan คือใช่สุด เพราะเขาไม่ได้แค่ได้รับ แรงบันดาลใจจาก Drag แต่ได้รับการซัพพอร์ตจริง ๆ ทั้งที่ตัวเอง เป็นหญิงแท้ แล้วมาเป็นควียร์
เราว่าในยุคนี้ มันคือเพลง Pink Pony Club นี่แหละ — ที่พูดถึง การกล้าเลือกสิ่งที่พ่อแม่ไม่เข้าใจ แต่เรารู้ว่ามันคือความสุขของเรา และในขณะเดียวกันก็ให้เกียรติกับคนที่สู้มาก่อนเรา